ค่า SPF ,PA และ PPD คืออะไร ?
เมื่อหยิบกันแดดขึ้นมาปุ๊บเราจะเห็นค่า SPF และค่า PA เขียนอยู่บนผลิตภัณฑ์ บางคนก็เลือกมามั่ว ๆ แต่จริง ๆ แล้วการเลือกค่าเหล่านี้ให้เหมาะสมก็จะทำให้เราได้รับประสิทธิภาพที่ดีนะคะ มาเริ่มทีละตัวกันเลยค่ะ
SPF : SPF หรือ Sun Protection Factor
เป็นค่าในการวัดอัตราการปกป้องผิวจากรังสี UVB โดยเป็นคำที่ถูกกำหนด และยอมรับโดยยุโรปและอเมริกา และตัวเลขที่อยู่หลัง SPF ก็คือ จำนวนเท่าที่สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ โดยเทียบกับผิวปกติที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ซึ่งรังสี UVB จะส่งผลในเรื่องของการผลิตเม็ดสีผิว หรือเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวไหม้เกรียม (Sunburn) หรือ ถ้าในระยะยาวอาจลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ สำหรับคนที่ต้องออกกลางแจ้งหรือมีกิจกรรมกลางแดดในระหว่างวันค่า SPF ที่ดีควรอยู่ที่ SPF 30-50 ค่ะ แต่ค่า SPF สูงๆจะหมายความว่าป้องกันรังสี UVB ได้มากกว่านะคะ ค่า SPF จะแสดงถึงระยะเวลาที่นานขึ้นในการป้องกันรังสี UVB ค่ะ
PA : Protection UVA
คือ ค่ามาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อแสดงประสิทธิภาพการปกป้องผิว จากอันตรายของรังสี UVA ที่ส่งผลโดยตรงกับคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวคล้ำ แดง หย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ และเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ค่ะ โดยการระบุค่า PA ถ้ามี จำนวน + มาก แสดงถึงประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องผิวจากรังสี UVA เช่น PA+++ คือประสิทธิภาพสูงสุด ในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ค่ะ
PPD : PPD ( Persistent Pigment Darkening )
คือค่าที่บอกความคงตัวของระบบกรองรังสียูวีเอในครีมกันแดด ซึ่งประเทศที่คิดค้นขึ้นมาก็คือประเทศญี่ปุ่น ปกติค่า PPD ควรอยุ่ที่ 8-10 ค่าที่สูงมากก็ใช่จะดีเสมอไป คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดว่าครีมกันแดดที่ดี ค่า PPD เมื่อนำไปหารกับ SPF แล้วควรได้ค่าที่ไม่เกิน 3 แต่หากไม่รู้ค่า PPD ที่แน่ชัด ให้สังเกตส่วนผสมต่อไปนี้ Mexoryl XL, Tinosorb, Titanium Dioxide, Zine Oxide, Avobenzone และ Oxybenzone เพราะเป็นส่วนผสมที่กันรังสียูวีเอได้ดีค่ะ
รู้จักค่าต่าง ๆ กันไปแล้วต่อไปก็เลือกกันแดดกันได้แบบไม่งงแล้วนะคะ นอกจากค่าทั้งสามตัวด้านบนแล้วยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เราควรดูก็คือ water resistant คือกันแดดที่มีความทนทานต่อน้ำและเหงื่อค่ะ สำหรับคนที่ต้องออกกลางแจ้งมากหรือเล่นกีฬาไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำ ซึ่งจะก่อให้เกิดเหงื่อได้ง่ายก็ควรเลือกกันแดดที่มีคำว่า water resistant ที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพของกันแดดที่ใช้เหมาะกับกิจกรรมมากกว่าค่ะ อีกนิดสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายควรเลือกกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารกันบูด ซึ่งในกลุ่มพวกนี้จะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายค่ะ
การทากันแดดควรทาก่อนออกแดด 20-30 นาทีเพื่อให้สารกันแดดซึมเข้าสู่ผิวหนังก่อนค่ะ ไม่ใช่ทาปุ๊บออกปั๊บ และควรทาซ้ำเมื่อมีเหงื่อออกหรือหลังจากออกกำลังกาย ซึ่งควรทาทุกวันไม่เฉพาะวันที่เล่นกีฬาหรือออกแดดจัดนะคะ โดยปริมาณที่ทาก็มีผลต่อประสิทธิภาพของกันแดดซึ่งคนทั่วไปมักทากันแดดน้อยกว่าที่ควรทำให้ประสิทธิภาพของกันแดดลดลงไปมากค่ะ ปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตรค่ะ กะ ๆ เอาในปริมาณที่ไม่น้อยเกินไปละกันนะคะ ทากันแดดห้ามงกมิฉะนั้นจะได้ประสิทธิภาพไม่เต็มที่ค่า
สำหรับกันแดด SpectraBAN SC SUN SCREEN SEBUM CONTROL GEL SPF 40 PA+++(PPD 13) เป็นกันแดดสูตรเนื้อเจลที่เหมาะสำหรับผิวมัน หรือผิวผสม ซึ่งคนผิวแห้งก็สามารถใช้ได้เนื่องจากเป็นลักษณะของเนื้อเจลบางเบาที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งควบคุมความมันบนผิวหน้าไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะโดยที่ไม่ทำให้ใบหน้าแห้งตึง แต่ยังคงประสิทธิภาพของการป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB ในค่าที่สูงและยังเป็นกันแดดแบบ water resistant ที่ทนทานต่อน้ำและเหงื่อ โดยไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมจึงเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ และในผลทางคอสเมติกสำหรับคนที่แต่งหน้า กันแดดตัวนี้ช่วยเตรียมสภาพผิวให้เรียบเนียนไม่เหนอะหนะง่ายต่อการลงเบสเมคอัพด้วยค่ะ จึงจัดเป็นกันแดดที่มีคุณสมบัติพร้อมในการปกป้องผิวผิวในเชิงสุขภาพและได้คุณสมบัติในด้านความงามในขวดเดียวเลยค่ะ
และพิเศษสำหรับผู้อ่านคอลัมน์นี้ เพียง Email ชื่อ – นามสกุล อายุ เบอร์โทรศัพท์มือถือ พร้อมระบุสภาพผิวและเว็บที่คุณอ่านบทความนี้ มาที่ spectraban.th@gmail.com ทีมงานจะมอบรางวัลให้สาวผู้โชคดีจำนวน 3 ท่าน โดยจะได้รับผลิตภัณฑ์ SpectraBANSC มูลค่า 1,080 บาท โดยคัดเลือกจากผู้ที่ส่ง Email มาเป็นท่านที่ 15, 35 และ 55 (หมดเขตร่วมสนุกวันที่ 31 ตุลาคม) ทั้งนี้ ทีมงานจะติดต่อแจ้งรายละเอียดการติดต่อรับของรางวัลไปยัง E- mail ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็น ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็น สมาชิกนะคะแต่ถ้าสมัคร สมาชิกและเข้าสู่ระบบก่อนโพส ข้อความเราจะโชว์รูปของคุณ