Share |

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

คำถามยอดนิยม เกี่ยวกับกลูต้าไธโอน



Q : กลูต้าไธโอน คืออะไร ?

A : เป็นสารอย่างหนึ่งที่กินแล้ว มีผลลดการสร้างเม็ดสีผิว ทำให้ผิวขาวขึ้นได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บทความกลูต้าไธโอนคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

Q : กลูต้าไธโอน แท้ ดูอย่างไร

A : กลูต้าไธโอนไม่สามารถตรวจสอบได้โดยวิธีชาวบ้านๆครับ หยดเบตาดีน ดมกลิ่ง ส่องดู รสชาติ อะไรก็แล้วแต่มันไม่เฉพาะเจาะจงครับ เช่น หากใช้วิธีเบตาดีน วิตามินซี วิตามินอี หรือแม้แต่ผงชูรสก็ทำให้น้ำเบตาดีนกลับมาใสได้ครับ การตรวจกลูต้าไธโอนจริงๆแล้ว ต้องใช้เครื่องมือที่มีมูลค่าหลายล้าน เช่น เครื่อง MRI, NMR spectrometer ซึ่งใช้ตรวจสอบโมเลกุลของสารครับ ซึ่งเราก็ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อมาตรวจเองหรอกครับ 

Q: อยากทราบว่านานเท่าไรถึงจะเห็นผลค่ะ

A: ขึ้นอยู่กับ 1. ทานให้ถูกวิธี(ทานให้ได้ปริมาณควบคู่กับสาร Antioxidant ตอนท้องว่าง ทุกวันอย่างต่อเนื่อง) ตามบทความนี้เลยครับ >>ข้อแนะนำในการทานกลูต้าไธโอน

2.หลีกเลี่ยงจากแสงแดด และทาครีมกันแดดอยู่เป็นประจำ

หากทำ 2 ข้อนี้ได้ ภายใน 4 สัปดาห์ จะเห็นผลอย่างแน่นอน แต่ผลยังไม่เต็มที่ จะต้องทานต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นผลเต็มที่

Q : ทำไมยี้ห้อ xxx บอกว่าขาวตั้งแต่เริ่มกิน และยี่ห้อ XXX บอกว่าขาวใน 3 วัน 7 วัน ค่ะ

A : เป็นไปไม่ได้นะครับ ให้ระวังสินคาที่โฆษณาเกินจริงด้วยนะครับ ถึงแม้จะทานกลูต้าไธโอน ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็ตาม วันละ 10 -20 เม็ด ก็ไม่ได้ช่วยให้ขาวเร็วขึ้นแน่นอนครับ เป็นไปไม่ได้เลย เพราะกว่าผิวเดิมของเราที่มีสีคล้ำจะผลัดเปลี่ยนไปเป็นขี้ไคลก็ใช้เวลาหลาย สัปดาห์ครับ โดยปกติ 28 วันครับ เร็วหรือช้ากว่านี้ก็แล้วแต่ลักษณะผิวของคนครับ คนผิวแห้งจะผลัดเร็วกว่าคนผิวมันครับ เด็กจะผลัดเร็วกว่าคนแก่ครับ ก็เหมือนกับกระดาษสีดำทับกระดาษสีขาว หากไม่เอากระดาษสีดำที่ทับอยู่ออก ก็จะไม่เห็นกระดาษสีขาวครับ

หากอยากขาวเร็วขึ้นอีก ก็หาตัวช่วยเร่งทำให้ผิวผลัดเร็วขึ้นครับ เช่น การขัดผิว ทาครีมกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เป็นต้น

Q : หยุดทานแล้วผิวจะกลับมาดำเหมือนเดิมมั้ยค่ะ ??

A : โอกาสที่ผิวจะกลับมาคล้ำเหมือนเดิมขึ้นอยู่กับปัจจัยกระตุ้นครับ นั่นก็คือ
1.สีผิวเดิม
หากสีผิวเปลี่ยนไปมากโอกาสคล้ำขึ้นก็มีมากด้วยครับ(แต่ยังคงจะขาวกว่าก่อนกินอยู่ครับ)
หากรักษาผิวดีๆ ยากที่จะกลับไปคล้ำระดับเดิมครับ
2.การกระตุ้นการสร้างเม็ดสี ก็คือการตากแดดนั่นเอง
หากโดนกระตุ้นอย่างมาก โอกาสที่จะคล้ำก็เร็วขึ้นครับ หากดูแล รักษาดีๆ สามารถคงสีผิวได้กว่าปีเลยทีเดียวครับ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เมื่อผิวเริ่มคล้ำก็กลับมาทานใหม่ได้ไม่เสียหายครับ

Q : ทานอย่างไรค่ะ ทานเวลาไหน ?

A : ทานตอนท้องว่างวันละ 2 เม็ด พร้อม วิตามินซี 1000มก. 1 เม็ด จะแบ่งทานเช้า – เย็น หรือ เช้าครั้งเดียว หรือ ก่อนนอนครั้งเดียว หรือ กลางวันครั้งเดียว ก็ให้ผลไม่ต่างกันครับ 

Q : หากดื่มน้ำไปด้วยจะถือว่าท้องว่างหรือไม่ ? ท้องว่างเป็นอย่างไร ?

A : ท้องว่างหมายถึง ว่างจากสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินอื่นๆครับ

ทำไมต้องท้องว่าง?
- หากท้องเรามีอาหารเยอะแยะมากมาย
1.มันก็จะพยายามเลือกสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดดูดซึมไปก่อน เมื่อมันเกินความต้องการแล้วมันก็หยุดดูดซึม
หากท้องเรามีเฉพาะกลูต้าไธโอนอย่างเดียว มันก็จะไม่มีทางเลือก มันก็จำเป็นต้องดูดซึมกลูต้าไธโอนเข้าไป
2.มันจะรบกวนการดูดซึมกลูต้าไธโอนของเรา
หากมีแต่กลูต้าไธโอนในท้องเรามันก็จะถูกดูดซึมได้เต็มที่

ส่วนน้ำเปล่าๆนี้มันไม่มได้มีสารอาหารอะไรครับ ทานได้ ดีด้วยซ้ำเพราะมันจะช่วยละลายกลูต้าไธโอน ทำให้พื้นที่ผิวของกลูต้าของเรามากขึ้น โอกาศในการถูกดูดซึมก็เพิ่มขึ้นด้วยครับ

Q : ทานวันละ 1 เม็ดได้ไหม ค่ะ ?

A : ไม่แนะนำให้ทานวันละ 1 เม็ดครับ เพราะน้อยไปครับ แทบจะไม่มีผลยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวเลยครับ  คุณก็เลยจะไม่ขาวขึ้นครับ

Q : ไม่ทานวิตามินซีได้ไหม ?

A : หากไม่ทานวิตามินซี คุณจะต้องทานกลูต้าไธโอนเพิ่มขึ้นเป็น วันละ 4 เม็ดครับ

Q : ยามีผลกับยาคุมไหม ?

A : ไม่มีผลครับ

Q : กลูต้าไธโอนมีผลข้างเคียงรึป่าว ?

A : ณ ตอนนี้ ผลข้างเคียงของกลูต้าไธโอนชนิดรับประทานไม่มีครับ

โดยการศึกษาผลข้างเคียงของยาจะแบ่งเป็น 2 อย่างคือ
1.ผลข้างเคียงที่สามารถทำนายได้ – วิเคราะห์จากกลไกการออกฤทธิ์ของยา ซึ่งจากการวิเคราะห์โดยแพทย์หลายๆท่านก็บอกว่าไม่มีผลข้างเคียงครับ
2.ผลข้างเคียงที่ทำนายไม่ได้ – ซึ่งจะใช้การทดลองทั้งในคนและสัตว์ทดลอง ซึ่งก็จะแบ่งเป็นทั้งระยะสั้น และระยะยาว
อาหารเสริมกลูต้าไธโอนนี้เพิ่งจะถูกผลิต และนำมาใช้เพื่อทำให้ผิวขาวได้ไม่นาน จึงทำให้ยังไม่มีการศึกษาผลข้างเคียงในระยะยาว ส่วนผลข้างเคียงในระยะสั้นนั้นพบว่า ไม่มีรายงานการเกิดผลข้างเคียงครับ


Q : เด็กทานได้ไหม ?

A : เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร ไม่ควรทานครับ ถ้านอกจากที่กล่าวมานี้ก็ทานได้ครับ

Q : จะเปลี่ยนจากยี่ห้ออื่นมาทานยี่ห้อนี้ต่อเลยได้รึปล่าวค่ะ ?

A : ได้ครับ ถ้าเป็นกลูต้าไธโอนของแท้ และมีอย. แล้ว สามารถทานสลับกันได้ครับ ให้ผลต่อเนื่องกันครับ

Q : กลูต้าไธโอนแบบฉีด ต่างจากแบบกินอย่างไร ? แบบไหนมีผลข้างเคียงมากกว่ากัน ? แบบฉีดขาวเร็วกว่าแบบกินจริงไหม ?

A : ระหว่างการฉีดกับการกินต่างกันนิดเดียวครับ ก็คือ การกินจะต้องผ่านระบบย่อยอาหาร ถูกคัดกรองก่อนถูดดูดซึมเข้าสู่เส้นเลือด ส่วนการฉีดก็เข้าสู่เส้นเลือดโดยตรงเลย ไม่ว่าจะกินสลับฉีด หรือฉีดสลับกิน สุดท้ายแล้วมันก็ออกฤิทธิ์เหมือนกันครับ


Q : แล้วเราจาแน่ใจได้งัยค่ะ ว่าอ.ย.เปงของจริง

A : ต้องตรวจสอบครับ

1. ตรวจสอบทางเวปไซท์ อย. นำเลขอย. 13 หลักของสินค้าไปตรวจสอบครับ

2. ตรวจสอบทางโทรศัพท์ โดยโทร 1556 สายด่วนอย. ใช้เลขอย.ของสินค้า 13 หลักเช่นเดียวกันครับ ตามบทความนี้ครับ >> วิธีการตรวจสอบ กลูต้าไธโอน อย.แท้ หรือ อย.ปลอม

Q : กลูต้าไธโอนที่ผ่าน อย.จากอเมริกา ญี่ปุ่น แล้วจำเป็นต้องผ่านอย.ของไทยอีกไหม ?

A : ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่ต้องกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่293) เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หมายถึงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะต้องมีฉลากกำกับ ซึ่งฉลากจะต้องมีเลขสารบบอาหารในเครื่องหมาย อย. แบบนี้ครับและมีข้อความอื่นๆอีกด้วย (รายระเอียดเพิ่มเติมดูได้จากอ้างอิงครับ) ถึงแม้จะนำเข้าจากต่างประเทศก็ตามก็จะต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย. ในประเทศทั้งนั้น ถึงจะถูกต้องนะครับ ถ้าไม่มีเลขสารบบอาหารในเครื่องหมาย อย. นี้ก็เรียกง่ายๆว่าของเถื่อนครับ เครื่องหมายอย.และเลขสารบบ บนอาหารดูแล้วสามารถปลอมแปลงได้ง่ายมากๆครับ เพราะฉะนั้นให้ดูข้อความอื่นๆประกอบด้วย ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้แบ่งบรรจุ อันนี้สำคัญมากครับ เคยเห็นหลายๆยี่ห้อมีแต่อย.แต่ไม่มีชื่อและที่ตั้งของบริษัทที่ผลิต แสดงว่าปลอมแปลงเลขอย. ชัวร์ ครับ

Q : กินมาหลายเดือนแล้วไม่เห็นขาวขึ้นเลย กินขนาด 500 mg วันละ 2 เม็ด

A : ต้องดูครับว่า กินประจำติดต่อกันทุกวันไหม ถ้ากินๆหยุดๆ กินเดือนเว้นเดือนก็ไม่ดีแน่ครับ แล้วได้ดูแลตัวเองด้วยไหม ไม่ตากแดด ทาครีมกันแดดไหม ? แต่ที่แน่ ๆ ขนาด เม็ดละ 500 mg. ไม่มี อย.แน่ๆ เพราะ อย. รับรองขนาดกลูต้าไธโอนไม่เกินเม็ดละ 250 mg. เพราะฉะนั้น ถึงกินเป็นปีก็อาจจะไม่ขาวขึ้นเลยก็ได้เพราะไม่มี อย.รองรับว่าที่คุณกินนั้นมัน คือ สารกลูต้าไธโอน จริงๆ ผมแนะนำซื้อของที่มี อย. มารับประทานดีกว่าครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คุณสามารถแสดงความคิดเห็น ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็น สมาชิกนะคะแต่ถ้าสมัคร สมาชิกและเข้าสู่ระบบก่อนโพส ข้อความเราจะโชว์รูปของคุณ